CapEx สู่ OpEx: ตัวช่วยด้านค่าใช้จ่าย กลยุทธ์เพื่อธุรกิจคล่องตัว

กลยุทธ์ CapEx สู่ OpEx: ตัวช่วยด้านค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจคล่องตัว ไม่มีสะดุด

การปรับตัวของจาก CapEx สู่ OpEx ได้กลายเป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่หลายองค์กรทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะช่วยให้การบริหารต้นทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ต้องแบกรับภาระการลงทุนก้อนใหญ่เหมือนในอดีต แต่เหตุผลอะไร ที่ทำให้ OpEx เข้ามาแทนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแนวคิดที่ว่านี้แตกต่างจาก CapEx มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลยในบทความนี้

ทำความรู้จัก CapEx และ OpEx คืออะไร

ก่อนที่จะมาดูข้อแตกต่างระหว่าง CapEx และ OpEx เรามาทำความรู้จักแนวคิดพื้นฐานของทั้งสองคำนี้กันก่อน

CapEx (Capital Expenditure) คือ ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนระยะยาว เช่น การซื้อเครื่องจักร อาคาร รถยนต์ หรืออุปกรณ์ไอที ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ถาวรของบริษัท CapEx มักเป็นการจ่ายเงินครั้งใหญ่และต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก โดยองค์กรจะค่อย ๆ ตัดค่าเสื่อมราคาออกไปในแต่ละปี ตัวอย่างเช่น

• บริษัทผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
• องค์กรขนาดใหญ่ลงทุนสร้าง Data Center ของตนเอง
• บริษัทขนส่งซื้อรถบรรทุกเพิ่มเพื่อขยายเส้นทาง

ในทางกลับกัน OpEx (Operating Expenditure) คือ ค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินงานประจำวัน เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าออฟฟิศ ค่าบริการ Cloud หรือค่า Subscription ของ Software ต่าง ๆ ซึ่งสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนได้ทันที เช่น

• จ่ายค่าบริการ Cloud แทนการซื้อ Server เอง
• ใช้ระบบ Software as a Service (SaaS) รายเดือน
• การเช่าซื้อเช่าใช้อุปกรณ์แทนการใช้เงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว คลิกที่นี่เพื่อเช็คบริการเช่าซื้อเช้าใช้ของ Com7 ได้แล้วที่นี่

‍

‍

กล่าวง่าย ๆ คือ CapEx คือการลงทุนในทรัพย์สิน ส่วน OpEx คือค่าใช้จ่ายในการใช้งาน ซึ่งทั้งสองแบบต่างมีบทบาทสำคัญต่อการวางกลยุทธ์ทางการเงินขององค์กร

CapEx กับ OpEx ต่างกันอย่างไร

แม้จะเกี่ยวข้องกับ ค่าใช้จ่าย เหมือนกัน แต่แนวคิดของ CapEx และ OpEx แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งในด้าน การบริหารเงินสด (Cash Flow) และ งบการเงิน

‍

ตารางเปรียบเทียบความต่างระหว่าง CapEx กับ OpEx

การเลือกว่าจะใช้ CapEx หรือ OpEx จึงไม่มีคำตอบที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับ กลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร เช่น หากธุรกิจต้องการครอบครองสินทรัพย์ และมีงบลงทุนมาก การใช้ CapEx อาจเหมาะกว่า

แต่หากองค์กรต้องการ ลดภาระต้นทุนที่ต้องจ่ายล่วงหน้า และเน้นความคล่องตัว OpEx จะตอบโจทย์มากกว่า

ทำไมองค์กรถึงเลือกเปลี่ยนจาก CapEx มาสู่ OpEx

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์กรทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนแนวคิดทางการเงิน จากก CapEx มาเป็น OpEx มากขึ้น เพราะโลกธุรกิจในยุคดิจิทัลต้องแข่งขันกันด้วย “ความเร็ว” และ “ความยืดหยุ่น” มากกว่าการครอบครองทรัพย์สิน

อีกทั้งเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วขึ้น ต้นทุนการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ก็อาจกลายเป็นภาระมากกว่าข้อได้เปรียบ ดังนั้นแนวทาง CapEx สู่ OpEx จึงกลายเป็นกลยุทธ์หลักขององค์กรยุคใหม่ ที่ต้องการเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินและลดความเสี่ยงระยะยาว

เหตุผลหลักที่องค์กรหันมาใช้กลยุทธ์ CapEx สู่ OpEx

• ลดภาระการลงทุนก้อนใหญ่
  การซื้อสินทรัพย์ เช่น เครื่องจักร หรือระบบไอที มักต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในครั้งเดียว ซึ่งอาจกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัท การเปลี่ยนมาใช้โมเดลรายเดือนช่วยกระจายค่าใช้จ่ายให้สมดุลกับรายได้ และวางแผนกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้น
  
  
• ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็วตามเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา
  เทคโนโลยีในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สินทรัพย์ที่ซื้อวันนี้อาจล้าสมัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การใช้บริการรูปแบบ OpEx ทำให้องค์กรสามารถอัปเกรดหรือเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ได้ทันที
  
  
• ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเสื่อมราคาและค่าบำรุงรักษา
  เมื่อองค์กรเลือกใช้บริการแทนการเป็นเจ้าของ ผู้ให้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการดูแล ซ่อมแซม และอัปเกรด ช่วยให้ธุรกิจลดภาระทางบัญชีและประหยัดเวลาในการบริหารจัดการ
  
  
  
• รองรับแนวคิด Asset-Light Organization
  แนวคิดนี้เน้นให้ธุรกิจ เบาแต่คล่องตัว โดยลดการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงจากภาระทางการเงินในระยะยาว และโฟกัสไปที่สิ่งที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับธุรกิจแทน

นอกจากนี้ การเปลี่ยนจาก CapEx เป็น OpEx ยังสอดคล้องกับเทรนด์ของ Digital Transformation ที่องค์กรต่างนำเทคโนโลยีรูปแบบบริการ เช่น Cloud, SaaS, Managed Service มาใช้แทนการซื้อระบบแบบเดิม ทำให้สามารถปรับขนาดการใช้งานได้ตามความต้องการ และจ่ายเฉพาะส่วนที่ใช้จริง

ตัวอย่างการเปลี่ยนจาก CapEx สู่ OpEx ในภาคธุรกิจจริง

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงจาก CapEx ไปสู่ OpEx ที่เกิดขึ้นจริงในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและหันมาใช้บริการแบบจ่ายตามการใช้งาน สามารถช่วยให้องค์กรคล่องตัวขึ้นได้อย่างไร

• ภาค IT

ในอดีต องค์กรจำนวนมากต้องลงทุนซื้อ Server, อุปกรณ์ Storage, และ ระบบเครือข่าย เพื่อสร้าง Data Center ของตนเอง ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ทั้งในส่วนของ ฮาร์ดแวร์, ค่าไฟฟ้า, และ การบำรุงรักษา แต่ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนมาใช้บริการ Cloud Infrastructure (IaaS) เช่น AWS, Azure หรือ Google Cloud ที่ช่วยให้สามารถเลือกขนาดทรัพยากรได้ตามต้องการ จ่ายเฉพาะเท่าที่ใช้จริง และปรับเพิ่มหรือลดได้ทันทีเมื่อธุรกิจขยายหรือลดขนาดลง

• ภาคบริการ

เดิมทีองค์กรต้องซื้อ License โปรแกรม เช่น ระบบบัญชี ระบบ CRM หรือโปรแกรมจัดการงานเอกสาร ซึ่งมักมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่และต้องอัปเกรดเวอร์ชันอยู่เสมอ ปัจจุบันธุรกิจบริการส่วนใหญ่หันมาใช้ SaaS (Software as a Service) เช่น Microsoft 365, Google Workspace หรือ Salesforce ที่ให้บริการผ่าน Cloud พร้อมอัปเดตเวอร์ชันใหม่อัตโนมัติ

• ภาคอุตสาหกรรม

โรงงานที่ลงทุนซื้อเครื่องจักรเอง ต้องใช้เงินทุนสูงและมีค่าเสื่อมราคาในระยะยาว ปัจจุบันหลายโรงงานเลยเปลี่ยนแนวคิดมาใช้โมเดลเช่าเครื่องจักรตามชั่วโมงหรือจำนวนการผลิตจริง ผู้ให้บริการจะดูแลการซ่อมบำรุงและอัปเกรดเทคโนโลยีให้

• ภาคสำนักงาน

องค์กรหลายแห่งเคยลงทุนซื้อ คอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์, และระบบเครือข่าย เพื่อใช้งานในสำนักงาน แต่ต้องเผชิญกับปัญหาค่าซ่อมบำรุงและอุปกรณ์ล้าสมัย ปัจจุบันบริษัทจำนวนมากหันมาใช้บริการแบบ Managed Service โดยให้ผู้ให้บริการภายนอกมารับผิดชอบในการดูแล จัดการ และบำรุงรักษาระบบต่างๆ แทน

• ภาคการตลาด

ปัจจุบันธุรกิจในด้านการตลาด ก็เปลี่ยนมาใช้บริการ Cloud Software ต่างๆ เช่น เครื่องมือ Analytic ที่ให้เข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลผ่านระบบ Cloud พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล

ซึ่งองค์กรที่ต้องการแนวทางปรับตัวสู่ความคล่องตัวทางการเงินและเทคโนโลยีแบบครบวงจร สามารถดูโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจได้ที่ Com7 Solutions

จาก CapEx สู่ OpEx: ความยืดหยุ่นในยุคดิจิทัล

การเปลี่ยนจาก CapEx สู่ OpEx ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการจัดการต้นทุนเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแนวคิดในการขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล

องค์กรที่เข้าใจและปรับตัวได้ก่อน จะสามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนสินทรัพย์ระยะยาว

บริหาร Cash Flow ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความยืดหยุ่นในการตัดสินใจทางธุรกิจ และสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เพราะความยืดหยุ่นคือหัวใจของประสิทธิภาพ หากองค์กรของคุณกำลังมองหาแนวทางเปลี่ยนผ่านสู่ OpEx ติดต่อ Com7 Business วันนี้ และก้าวไปสู่การเติบโตอย่างคุ้มค่าและมั่นคง หรือสนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

‍

‍